top of page
Writer's picturePassive Income Forex

ห้องเรียนที่ 8. Stop Loss คืออะไร? ทำไมถึงขาดไม่ได้



Stop Loss (SL) คืออะไร ? ทำไมถึงเจ๊งหากไม่มี Stop Loss


ทำไมต้องมี Stop Loss? ตลาด Forex สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ในแต่ละวันกราฟสามารถขึ้นลงได้ทั้งวันโอกาสที่คุณจะคาดการณ์ทิศทางของราคาได้แม่นยำ 100% คงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน หากราคาไม่ได้ไปตามทิศทางที่คุณคิดไว้ล่ะคุณจะทำอย่างไร? ปล่อยให้ขายทุนไปเรื่อยๆหรือป่าว? ถ้าหากคุณปล่อยให้ขาดทุนไปเรื่อยๆจะเกิดอะไรขึ้น? แน่นอนคุณก็จะล้างพอร์ตภายในไม่ช้า จะดีกว่าไหมถ้าหากคุณยอดขาดทุนเมื่อราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ยอมขาดทุนเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ขาดทุนหมดทั้งบัญชี จนเงินในบัญชีเหลือ 0 ดังนั้นการ Stop Loss จึงมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยไม่ให้คุณล้างพอร์ตการจากขาดทุนเพียงออร์เดอร์เดียว ดังคำกล่าวที่ว่า “ตลาดเป็นตัวกำหนดว่าจะให้เรากำไรได้เท่าไหร่ แต่เราเป็นคนกำหนดว่าเราจะขาดทุนได้เท่าไหร่”


Stop Loss แบ่งเป็น 3 รูปแบบได้แก่

1. Equity Stop (หยุดขาดทุนกี่เปอร์เซ็นต์) การหยุดขาดทุนตามเปอร์เซ็นต์หรือตามจำนวนจุดที่ตั้งไว้ เทรดเดอร์หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการตั้ง Stop Loss รูปแบบนี้ประมาณว่า ผมตั้ง Stop Loss 10 จุดในแต่ละออร์เดอร์หรือไม่ก็ถ้าขาดทุนเกิน 5% ของต้นทุนแล้วผมจะทำการ Stop Loss เลย วิธีนี้เป็นการหยุดขาดทุนในรูปแบบนี้คือการหยุดขาดทุนโดยไม่ดูสภาวะตลาดหรือไม่ดูความเหมาะสมของตลาดเลยเพียงแต่เรากำหนดว่าจะยอมขาดทุนกี่จุด เราก็จะตัดขาดทุนเมื่อราคาผิดทางมากี่จุด ซึ่งผมคิดว่าการตั้ง Stop Loss แบบนี้เป็นวิธีที่ไม่ดีเลย เพราะเป็นการหยุดขาดทุนแบบไม่ลืมหูลืมตา และเป็นการตั้งขาดทุนโดยที่ไม่มีเหตุผล ดังนั้น ผมจึงไม่แนะนำให้หยุดขาดทุนโดยใช้วิธีการนี้ เนื่องจากการเป็นเทรดเดอร์ที่ดีจะต้อง เปิดปิด ออร์เดอร์มีเหตุผลในทุกๆครั้งที่ทำการเทรด


2. Time Stop (หยุดขาดทุนตามเวลา) การหยุดขาดทุนตามเวลา ถ้าพูดมาแบบนี้หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจก็เป็นไปได้ ว่าความจริงแล้วการหยุดขาดทุนตามเวลานั้นเป็นอย่างไร? การหยุดขาดทุนตามเวลาคือ การหยุดขาดทุนเมื่อเราไม่แน่ใจหรือไม่อยากเสี่ยงกับอนาคตที่จะเกิดขึ้น เช่น บางคนอาจจะไม่เทรดข้ามวันแต่เมื่อพอจะนอนก็ทำการปิดออร์เดอร์ที่ถืออยู่ให้หมดแล้วจึงค่อยนอน, บางคนอาจจะไม่เทรดข้ามสัปดาห์เพราะกลัวความผันผวนที่อยู่ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้นพอมาถึงวันศุกร์ก็พยายามปิดออร์เดอร์ให้หมด และบางคนอาจจะปิดออร์เดอร์เมื่อใกล้ถึงเวลามีข่าวรุนแรงเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนเมื่อมีข่าวออกมา เป็นต้น ดังนั้น วิธีนี้จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการหยุดขาดทุน ในตอนที่เราไม่มั่นใจหรือกลัวความเสี่ยงจะเกิดขึ้นในอนาคต


3. Market Conditions Stop (หยุดขาดทุนตามสภาวะตลาด) การหยุดขาดทุนตามสภาวะตลาดเป็นมีกฎการหยุดขาดทุนที่ไม่ตายตัว จะเปลี่ยนรูปแบบและเทคนิคการ Stop Loss ไปตามสภาวะตลาด เช่น ถ้าราคาเคลื่อนที่เป็นเทรนก็จะทำการเลื่อน Stop Loss ไล่ตามราคา, ถ้าราคาเคลื่อนที่ในทิศทาง Sideway ก็จะตั้ง Stop Loss ตามแนวรับแนวต้าน เป็นต้น วิธีนี้เป็นการหยุดขาดทุนแบบนี้เป็นการหยุดขาดทุนที่ต้องมีเหตุผล ดังนั้น วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ผมอยากแนะนำ เนื่องจากเราไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าในอนาคตตลาดนั้นจะเคลื่อนที่ไปทิศทางไหนเมื่อไหร่กราฟจะแกว่งตัวมากหรือน้อย ปัจจัยเหล่านี้เราไม่สามารถรู้ได้อย่างแน่นอน 100% ดังนั้น การที่เราจะตั้งกฎตายตัวให้มันก็ย่อมไม่ใช่ความคิดที่ดี


เราก็ควรตั้ง Stop Loss ห่างออกจากแนวรับแนวต้านไปอีกนิดหนึ่งเพื่อป้องกันการแกว่งตั้งที่จะเกิดขึ้น สมมุติว่า ราคาเคลื่อนที่เป็นเทรนเราก็ควรตั้ง Stop Loss แบบเลื่อนตามราคา บางคนอาจจะเลื่อนตามจุดพักตัวเดิม หรือบางคนจะกำหนดระยะห่าง ไม่ควรตั้งนิ่งๆทิ้งไว้เฉยๆเพราะว่า ถ้าราคากลับตัวเราอาจจะพลาดกำไรครั้งใหญ่ทั้งๆที่เราควรจะได้มา สมมุติว่าราคานั้นได้มีการกลับตัวก็จะโดน Stop Loss อันล่าสุดที่เราตั้งไว้มีความจริงคำหนึ่งที่ถูกกล่าวไว้ว่า “นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จะมุ่งไปที่เสี่ยงน้อยสุด ไม่ใช่ได้กำไรมากสุด”หลังจากที่เรารู้ไปแล้วว่ามีแบบไหนบ้าง ทีนี้จะมาพูดถึงเรื่อง การ Stop loss แบบกว้างและแคบ


1.เริ่มจากการตั้ง Stop Loss แบบแคบ ข้อดี ของการตั้ง Stop Loss แบบแคบ ก็คือ เมื่อราคาเคลื่อนที่ผิดทางเราจะขาดทุนไปไม่มากนั้นเองครับ ข้อเสีย ของการตั้ง Stop Loss แบบแคบ ก็คือ ถ้าราคามีการแกว่งตัวมากอาจจะโดน Stop Loss ของเราที่ตั้งไว้อาจจะทำให้เราพลาดโอกาสกำไรที่เราควรจะได้


2.การตั้ง Stop Loss แบบกว้าง ข้อดี ของการตั้ง Stop Loss แบบกว้าง ก็คือ เมื่อราคามีการแกว่งตัวมากโอกาสที่ราคาจะโดน Stop Loss ได้ก็มีน้อยทำให้เราไม่พลาดโอกาสกำไรที่เราควรจะได้รับ ข้อเสีย ของการตั้ง Stop Loss แบบกว้าง ก็คือ เมื่อราคามีการเปลี่ยนแนวโน้มอาจทำให้เราขาดทุนค่อนข้างมากหน่อย


การตั้ง Stop Loss ที่ดีคือ การตั้งให้แคบ แต่ต้องกว้างพอที่จะให้ราคาแกว่งตัวได้



ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก >>> cheappricethai

และขอบคุณคลิปดีๆจาก >>> Forex Thailand









0 views0 comments
bottom of page