คลิปดีเบทเต็มจาก >>> Wall Street Journal

"คริส วอลเลส" ผู้ดำเนินรายการดีเบต "ทรัมป์-ไบเดน" จบงานออกมาจวกยับ เป็นการดีเบตที่เผยธาตุแท้สองผู้สมัคร แต่ไม่ให้ประโยชน์กับคนดู และเสียดายแทนชาวอเมริกัน

คริส วอลเลส พิธีกรจากฟ็อกซ์นิวส์ ผู้ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการโต้วาทีอภิปรายนโยบายของสองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนัดแรกเมื่อวันที่ 30 ก.ย. เปิดใจกับหนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ เกี่ยวกับความรู้สึกของเขาหลังเสร็จสิ้นการทำหน้าที่สำคัญครั้งนี้ว่า รู้สึกประหลาดใจที่สองผู้สมัคร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทุ่มเถียงกันอย่างน่าเกลียดตั้งแต่ดีเบตนัดแรก

นายวอลเลส วัย 72 ปี บอกว่า เขายอมรับว่ารู้สึกไม่พอใจที่การดีเบตครั้งนี้ไม่ได้ดำเนินไปอย่างที่วางแผนไว้ แต่ก็มองว่า พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้คนดูได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสองผู้สมัครว่าแต่ละคนคิดอะไรอยู่และจะนำพาประเทศไปในทิศทางไหน แม้เรียกได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จนักในการจัดดีเบต แต่อย่างน้อยมันก็เป็นเวทีที่เผยตัวตนของทั้งคู่ออกมา

การดีเบตครั้งนี้ใช้เวลา 90 นาที จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่มหาวิทยาลัย "เคส เวสเทิร์น รีเซิร์ฟ" เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ บรรดานักวิเคราะห์การเมืองสหรัฐฯ ต่างมองว่า บรรยากาศดำเนินไปอย่างปั่นป่วน สองผู้สมัครกล่าวโจมตีกันดุเดือดระหว่างแสดงวิสัยทัศน์ตอบคำถาม และมองว่าเป็นการดีเบตที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ขณะที่ตัวผู้ดำเนินรายการก็ได้รับเสียงตำหนิว่าไม่สามารถควบคุมบรรยากาศในการอภิปรายได้ ปล่อยให้ประธานาธิบดีทรัมป์พูดแทรก นายไบเดนถึง 71 ครั้ง จนนายไบเดน ผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีถึงกับบอกว่าทรัมป์เป็น "ตัวตลก" และขอร้องให้ "หุบปาก" ระหว่างที่พูดแทรกการอภิปรายของเขา แม้ผู้ดำเนินรายการจะพยายามห้ามปรามแต่ก็ไม่เป็นผล

นายวอลเลส กล่าวว่า ตอนเริ่มดีเบตในช่วงแรก เขารู้สึกดีใจที่เห็นสองผู้สมัครโต้เถียงแลกเปลี่ยนกันในประเด็นผู้พิพากษาศาลสูง เพราะเขาคิดว่า การโต้เถียงแลกเปลี่ยนกันย่อมดีกว่าการที่แต่ละฝ่ายยืนพูดเหมือนแถลงข่าวอยู่คนเดียว แต่ต่อมาพบว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีท่าทีจะหยุด และยังคงพูดแทรกแม้จะเป็นจังหวะที่ไม่ควรพูดก็ตาม ทำให้เขารู้สึกว่า การดีเบตครั้งนี้แทนที่จะเป็นประโยชน์กลับทำให้ชาวอเมริกันกว่า 73 ล้านคน ที่ดูอยู่ต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ

อย่างไรก็ตาม นายวอลเลส บอกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับบางคนที่บอกว่า ทำไมผู้ดำเนินรายการไม่ใช้วิธีที่ว่าใครพูดแทรกให้ตัดไมโครโฟนไปเลย แต่คิดว่า ทางผู้จัดดีเบตควรเพิ่มกลไก หรืออะไรบางอย่างเข้าไปเพื่อให้การดีเบตผู้สมัครตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 2 ครั้งที่เหลือ และดีเบตคู่ชิงรองประธานาธิบดี 1 ครั้งที่กำลังจะมีขึ้น ได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นน่าฟังและเกิดประโยชน์มากกว่านี้.

ขอขอบคุณข่าวจาก >>> ไทยรัฐออนไลน์ 1 ต.ค. 2563 13:56 น.