top of page
Writer's picturePassive Income Forex

ຫ້ອງຮຽນ 14. ລວມ 6 ກົດລະບຽບຂອງພຶດຕິກໍາຕະຫຼາດ Forex ທີ່ນັກເທຣດເດີຕ້ອງຮູ້.

Updated: Sep 20



6 กฎพฤติกรรมของตลาด Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้


ถ้าคิดจะเข้ามาเก็งกำไรในตลาด Forex เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักพฤติกรรมของตลาด เพราะ การรู้จักพฤติกรรมตลาดจะทำให้เราเดาใจของตลาดออก ในการเก็งกำไรการเดาใจตลาดเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง และสิ่งที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นกฎพฤติกรรมตลาดที่เกิดขึ้นเสมอ ที่เราจำเป็นต้องรู้เพื่อนำไปใช้เดาใจตลาดครับ


ก่อนจะไปพบกับ 6 กฎพฤติกรรมตลาด หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ สามารถ Comment บอกความรู้สึก หรือ สิ่งที่ได้รับจากบทความ หรือ Share ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านสิ่งดี ๆ ที่คุณอ่าน ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ


ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก การเคลื่อนไหวของราคาในตลาดมีผลอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ส่งผลต่อกำไร-ขาดทุนในพอร์ตของเรา ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรู้กฎพฤติกรรมเหล่านี้เพื่อนำไปวางแผนสร้างกลยุทธ์การเก็งกำไร การหาจุดเข้าเมื่อตลาดอยู่ใน Zone ที่เป็น Trade Setup ของเรา และออกเมื่อตลาดวิ่งถึงจุดที่ต้องออก


กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 1 : รู้จักโครงสร้างของตลาด

  •  การเคลื่อนไหวของตลาด Forex ก็คล้ายกับตลาดการเงินทั่วโลก คือ มีแนวโน้ม (Trend), โมเมนตัม (Momentum) และมีแนวรับ- แนวต้าน (Support-Resistance)

  • Trend มีด้วยกัน 2 แบบ คือ Uptrend (แนวโน้มขาขึ้น) และ Downtrend (แนวโน้มขาลง)

  • พฤติกรรมของตลาด Forex อีกแบบหนึ่งที่เราต้องรู้จักก็คือ สภาวะไร้แนวโน้ม (Non-Trend) เป็นอีกพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยในตลาด Forex และเมื่อเกิดขึ้นจะทำให้เทรดเดอร์อย่างเราวิเคราะห์ตลาดได้ยากขึ้น (ต้องรอจนกว่าตลาดจะบอกเราเอง)




กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 2 : ตลาดเคลื่อนไหวด้วยผู้เล่นรายใหญ่

  • ตลาด Forex มีผู้เล่นใหญ่ที่เข้ามาเก็งกำไรเช่นเดียวกับเรามากมาย เช่น Hedgefund, International Bank, Broker อื่น ๆ

  • การเคลื่อนไหวของตลาดโดยส่วนใหญ่จะมาจากผู้เล่นรายใหญ่เหล่านี้ทั้งสิ้น

  • การเคลื่อนไหวของตลาดที่เกิดจากผู้เล่นใหญ่นี้ทำให้เกิดพฤติกรรมตลาดอย่างหนึ่งในตลาด คือ คลื่นในแนวโน้ม, เกิดแนวรับ-แนวต้าน, เกิดโมเมนตัม รวมไปถึงเกิด Price Action ด้วย

  • พฤติกรรมคลื่นในแนวโน้มนั้นมีลักษณะ ขึ้น (Impulse) และ ลง (Retracement) สลับกันไปแนวโน้ม (ดูตามภาพ)

  • จากพฤติกรรมคลื่นในแนวโน้มของตลาด เราสรุปได้ว่า ตลาดไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง

  • เมื่อตลาดไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง ทำให้เราจำเป็นต้องรอ และ มีการตั้งจุด Stop Loss ที่เหมาะสมเพื่อทนการเคลื่อนไหวระยะสั้นของตลาดให้ได้


กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 3 : ตลาดเคลื่อนที่รอบจุดศูนย์กลาง

  • จุดศูนย์กลาง (Central Point) หรือ เรียกอีกชื่อว่า “MEAN”

  • สำหรับ Price Action Trader เราใช้ Moving Average เป็น MEAN ดูตามภาพ

  • ตลาดจะมีพฤติกรรม 2 แบบกับ MEAN ได้แก่ เคลื่อนออกจาก MEAN (เหมือนถูกผลักออกไป) และ เคลื่อนกลับเข้ามายัง MEAN (ถูกดูดกลับเข้ามา) ดูตามภาพ

  • ดังนั้น นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่ตลาดไม่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง เพราะ เส้น Moving Average ที่ทำหน้าที่เป็น MEAN จะผลักราคาออก และ ดึงราคากลับเข้ามา เสมอ

  • การใช้ Moving Average แทน Central Point (MEAN) เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการบอกค่า MEAN แต่ข้อเสียคือ ค่า MEAN นี้จะไม่ Perfect

  • สำหรับ Price Action Trader ถึงแม้ MEAN ที่เราใช้จะไม่ Perfect เราก็สามารถทำกำไรในตลาด Forex ได้


กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 4 : ไม่มีปัจจัยใดขับเคลื่อนตลาดอย่างเด่นชัด

  • ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดจะมีด้วยกัน 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐานที่มาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจ และ ความโลภ-ความกลัวในตลาด

  • ถึงแม้เราจะทราบว่าปัจจัยพื้นฐานที่ออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะเคลื่อนที่ไปยังทิศทางนั้นเสมอ

  • ตัวอย่างเช่น อย่างที่เรารู้กันว่าหากตัวเลขการจ้างงานดีกว่าคาด ค่าเงินก็จะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น แต่ตลาดไม่จำเป็นต้องตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้อย่างตรงไปตรงมา นั่นก็เพราะ ไม่มีปัจจัยใดที่ขับเคลื่อนตลาดอย่างชัดเจน ถึงแม้ตัวเลขจะออกอย่างตรงไปตรงมาและราคาตอบสนองต่อเหตุการณ์ทันที แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นที่ผู้เล่นรายใหญ่มองเห็นและวิเคราะห์ได้อีกมากมายที่เราไม่รู้

  • ดังนั้น สำหรับ Price Action Trader อย่างเรา ๆ ที่ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลมากมายเหล่านั้นได้ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เทรดไปตามราคาที่เห็น (เกาะไปกับแนวโน้มตลาด) เพราะ ด้วยข้อจำกัดด้านจำนวนเงิน ความสามารถในการวิเคราะห์ตลาด และ Action ของเรา ไม่สามารถมีผลต่อตลาดได้เลย

ภาพจาก : i.ytimg.com


กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 5 : การเทรดในแนวโน้ม VS. การเทรดแบบไร้แนวโน้ม

  • ถึงแม้ตลาดการเงินทั่วโลกจะมีโครงสร้างและพฤติกรรมคล้ายกัน คือ มีแนวโน้ม ไร้แนวโน้ม และอื่น ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ Price Action Trader อย่างเรา ๆ ต้องจำไว้ให้แม่นก็คือ การเทรดในแนวโน้มใช้กลยุทธ์ต่างจากการเทรดแบบไร้แนวโน้ม

  • สำหรับเทรดเดอร์ที่เพิ่งเข้ามาเทรดในตลาด Forex ผมแนะนำให้เริ่มจากการเทรดในแนวโน้มก่อน (คนละอย่างกับการเทรดแบบ Trend Following นะครับ) เพราะ แนวโน้มจะทำให้ Order ที่คุณเข้ามีโอกาสวิ่งไป Take Profit ได้ง่ายกว่า การเทรดแบบไร้แนวโน้ม

  • หลังจากที่ฝึกเทรดในแนวโน้มจนชำนาญแล้ว ถัดมาเราก็ฝึกเทรดแบบไร้แนวโน้มได้ ซึ่งกลยุทธ์ที่ใช้จะต่างกันตามที่บอกไปด้านบน

  • สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากถึงเทรดเดอร์ทุกท่าน คือ แม้เราจะมีกลยุทธ์แค่แบบเดียว เราก็สามารถทำกำไรในตลาด Forex อย่างต่อเนื่องได้แล้วครับ

  • ดังนั้น เราไม่จำเป็นที่จะต้องเที่ยวหากลยุทธ์การเทรดไปเรื่อย ๆ คุณต้องให้เวลากับการฝึกกลยุทธ์ที่คุณเลือกด้วย


กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 6 : การเทรดสวนแนวโน้มเป็นเรื่องยาก

  • ในตลาด Forex การเทรดสวนกับแนวโน้มเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก

  • มีคำกล่าวหนึ่งที่ว่า “Trend is your friend” คำกล่าวนี้เน้นย้ำให้เรารู้ว่า ถ้าคิดจะทำกำไรในตลาดเราต้องเน้นไปที่การเทรดในแนวโน้ม (Trade on trend) มากกว่า การเทรดสวนแนวโน้ม

  • จากภาพด้านล่างจะเห็นว่าระยะการเคลื่อนที่ของตลาดแบบ Retracement นั้นสั้นกว่าแบบ Impulse มาก นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่แนะนำให้เทรดเดอร์มือใหม่ เทรดสวนแนวโน้ม

  • หากคุณต้องการเทรดสวนแนวโน้มผมแนะนำให้คุณฝึกเทรดในแนวโน้ม และแบบไร้แนวโน้มจนชำนาญก่อน ภาพจาก : media-cache-ak0.pinimg.com


มาถึงตรงนี้ทุกท่านคงจะได้รับความรู้ทั้ง 6 ข้อกันไปเต็ม ๆ นะครับ ผมเชื่อว่ากฎพฤติกรรมตลาดทั้ง 6 ข้อนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์ทุกท่านเห็นภาพและได้แนวทางในการเทรด Forex ขึ้นมาก สำหรับใครที่เคยขาดทุนจนต้องล้างพอร์ต บทความนี้สามารถเพิ่มความเข้าใจในตลาด เพื่อให้ท่านไปปรับกลยุทธ์ได้อย่างแน่นอนครับ ถ้าจะให้ผมสรุปสิ่งที่คุณจะได้จากบทความนี้ ผมให้ไว้สั้น ๆ  3 ข้อครับ คือ ให้คุณมุ่งเน้นไปที่การเทรดตามแนวโน้มเป็นหลักก่อน, เทรดตามสิ่งที่คุณเห็นไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด และ ฝึกเทรดเพียง 1 กลยุทธ์ให้ชำนาญแล้วค่อยเพิ่มกลยุทธ์ที่ใช้ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมอยากแนะนำทุกท่านครับ


ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก >>> znipertrade.com









2 views0 comments

コメント


bottom of page