6 กฎพฤติกรรมของตลาด Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้
ถ้าคิดจะเข้ามาเก็งกำไรในตลาด Forex เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักพฤติกรรมของตลาด เพราะ การรู้จักพฤติกรรมตลาดจะทำให้เราเดาใจของตลาดออก ในการเก็งกำไรการเดาใจตลาดเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง และสิ่งที่ทุกท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นกฎพฤติกรรมตลาดที่เกิดขึ้นเสมอ ที่เราจำเป็นต้องรู้เพื่อนำไปใช้เดาใจตลาดครับ
ก่อนจะไปพบกับ 6 กฎพฤติกรรมตลาด หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ สามารถ Comment บอกความรู้สึก หรือ สิ่งที่ได้รับจากบทความ หรือ Share ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านสิ่งดี ๆ ที่คุณอ่าน ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก การเคลื่อนไหวของราคาในตลาดมีผลอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ส่งผลต่อกำไร-ขาดทุนในพอร์ตของเรา ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรู้กฎพฤติกรรมเหล่านี้เพื่อนำไปวางแผนสร้างกลยุทธ์การเก็งกำไร การหาจุดเข้าเมื่อตลาดอยู่ใน Zone ที่เป็น Trade Setup ของเรา และออกเมื่อตลาดวิ่งถึงจุดที่ต้องออก
กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 1 : รู้จักโครงสร้างของตลาด
การเคลื่อนไหวของตลาด Forex ก็คล้ายกับตลาดการเงินทั่วโลก คือ มีแนวโน้ม (Trend), โมเมนตัม (Momentum) และมีแนวรับ- แนวต้าน (Support-Resistance)
Trend มีด้วยกัน 2 แบบ คือ Uptrend (แนวโน้มขาขึ้น) และ Downtrend (แนวโน้มขาลง)
พฤติกรรมของตลาด Forex อีกแบบหนึ่งที่เราต้องรู้จักก็คือ สภาวะไร้แนวโน้ม (Non-Trend) เป็นอีกพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยในตลาด Forex และเมื่อเกิดขึ้นจะทำให้เทรดเดอร์อย่างเราวิเคราะห์ตลาดได้ยากขึ้น (ต้องรอจนกว่าตลาดจะบอกเราเอง)
กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 2 : ตลาดเคลื่อนไหวด้วยผู้เล่นรายใหญ่
ตลาด Forex มีผู้เล่นใหญ่ที่เข้ามาเก็งกำไรเช่นเดียวกับเรามากมาย เช่น Hedgefund, International Bank, Broker อื่น ๆ
การเคลื่อนไหวของตลาดโดยส่วนใหญ่จะมาจากผู้เล่นรายใหญ่เหล่านี้ทั้งสิ้น
การเคลื่อนไหวของตลาดที่เกิดจากผู้เล่นใหญ่นี้ทำให้เกิดพฤติกรรมตลาดอย่างหนึ่งในตลาด คือ คลื่นในแนวโน้ม, เกิดแนวรับ-แนวต้าน, เกิดโมเมนตัม รวมไปถึงเกิด Price Action ด้วย
พฤติกรรมคลื่นในแนวโน้มนั้นมีลักษณะ ขึ้น (Impulse) และ ลง (Retracement) สลับกันไปแนวโน้ม (ดูตามภาพ)
จากพฤติกรรมคลื่นในแนวโน้มของตลาด เราสรุปได้ว่า ตลาดไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง
เมื่อตลาดไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง ทำให้เราจำเป็นต้องรอ และ มีการตั้งจุด Stop Loss ที่เหมาะสมเพื่อทนการเคลื่อนไหวระยะสั้นของตลาดให้ได้
กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 3 : ตลาดเคลื่อนที่รอบจุดศูนย์กลาง
จุดศูนย์กลาง (Central Point) หรือ เรียกอีกชื่อว่า “MEAN”
สำหรับ Price Action Trader เราใช้ Moving Average เป็น MEAN ดูตามภาพ
ตลาดจะมีพฤติกรรม 2 แบบกับ MEAN ได้แก่ เคลื่อนออกจาก MEAN (เหมือนถูกผลักออกไป) และ เคลื่อนกลับเข้ามายัง MEAN (ถูกดูดกลับเข้ามา) ดูตามภาพ
ดังนั้น นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่ตลาดไม่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง เพราะ เส้น Moving Average ที่ทำหน้าที่เป็น MEAN จะผลักราคาออก และ ดึงราคากลับเข้ามา เสมอ
การใช้ Moving Average แทน Central Point (MEAN) เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการบอกค่า MEAN แต่ข้อเสียคือ ค่า MEAN นี้จะไม่ Perfect
สำหรับ Price Action Trader ถึงแม้ MEAN ที่เราใช้จะไม่ Perfect เราก็สามารถทำกำไรในตลาด Forex ได้
กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 4 : ไม่มีปัจจัยใดขับเคลื่อนตลาดอย่างเด่นชัด
ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดจะมีด้วยกัน 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐานที่มาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจ และ ความโลภ-ความกลัวในตลาด
ถึงแม้เราจะทราบว่าปัจจัยพื้นฐานที่ออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะเคลื่อนที่ไปยังทิศทางนั้นเสมอ
ตัวอย่างเช่น อย่างที่เรารู้กันว่าหากตัวเลขการจ้างงานดีกว่าคาด ค่าเงินก็จะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น แต่ตลาดไม่จำเป็นต้องตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้อย่างตรงไปตรงมา นั่นก็เพราะ ไม่มีปัจจัยใดที่ขับเคลื่อนตลาดอย่างชัดเจน ถึงแม้ตัวเลขจะออกอย่างตรงไปตรงมาและราคาตอบสนองต่อเหตุการณ์ทันที แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นที่ผู้เล่นรายใหญ่มองเห็นและวิเคราะห์ได้อีกมากมายที่เราไม่รู้
ดังนั้น สำหรับ Price Action Trader อย่างเรา ๆ ที่ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลมากมายเหล่านั้นได้ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เทรดไปตามราคาที่เห็น (เกาะไปกับแนวโน้มตลาด) เพราะ ด้วยข้อจำกัดด้านจำนวนเงิน ความสามารถในการวิเคราะห์ตลาด และ Action ของเรา ไม่สามารถมีผลต่อตลาดได้เลย
ภาพจาก : i.ytimg.com
กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 5 : การเทรดในแนวโน้ม VS. การเทรดแบบไร้แนวโน้ม
ถึงแม้ตลาดการเงินทั่วโลกจะมีโครงสร้างและพฤติกรรมคล้ายกัน คือ มีแนวโน้ม ไร้แนวโน้ม และอื่น ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ Price Action Trader อย่างเรา ๆ ต้องจำไว้ให้แม่นก็คือ การเทรดในแนวโน้มใช้กลยุทธ์ต่างจากการเทรดแบบไร้แนวโน้ม
สำหรับเทรดเดอร์ที่เพิ่งเข้ามาเทรดในตลาด Forex ผมแนะนำให้เริ่มจากการเทรดในแนวโน้มก่อน (คนละอย่างกับการเทรดแบบ Trend Following นะครับ) เพราะ แนวโน้มจะทำให้ Order ที่คุณเข้ามีโอกาสวิ่งไป Take Profit ได้ง่ายกว่า การเทรดแบบไร้แนวโน้ม
หลังจากที่ฝึกเทรดในแนวโน้มจนชำนาญแล้ว ถัดมาเราก็ฝึกเทรดแบบไร้แนวโน้มได้ ซึ่งกลยุทธ์ที่ใช้จะต่างกันตามที่บอกไปด้านบน
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากถึงเทรดเดอร์ทุกท่าน คือ แม้เราจะมีกลยุทธ์แค่แบบเดียว เราก็สามารถทำกำไรในตลาด Forex อย่างต่อเนื่องได้แล้วครับ
ดังนั้น เราไม่จำเป็นที่จะต้องเที่ยวหากลยุทธ์การเทรดไปเรื่อย ๆ คุณต้องให้เวลากับการฝึกกลยุทธ์ที่คุณเลือกด้วย
กฏพฤติกรรมตลาดข้อที่ 6 : การเทรดสวนแนวโน้มเป็นเรื่องยาก
ในตลาด Forex การเทรดสวนกับแนวโน้มเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
มีคำกล่าวหนึ่งที่ว่า “Trend is your friend” คำกล่าวนี้เน้นย้ำให้เรารู้ว่า ถ้าคิดจะทำกำไรในตลาดเราต้องเน้นไปที่การเทรดในแนวโน้ม (Trade on trend) มากกว่า การเทรดสวนแนวโน้ม
จากภาพด้านล่างจะเห็นว่าระยะการเคลื่อนที่ของตลาดแบบ Retracement นั้นสั้นกว่าแบบ Impulse มาก นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่แนะนำให้เทรดเดอร์มือใหม่ เทรดสวนแนวโน้ม
หากคุณต้องการเทรดสวนแนวโน้มผมแนะนำให้คุณฝึกเทรดในแนวโน้ม และแบบไร้แนวโน้มจนชำนาญก่อน ภาพจาก : media-cache-ak0.pinimg.com
มาถึงตรงนี้ทุกท่านคงจะได้รับความรู้ทั้ง 6 ข้อกันไปเต็ม ๆ นะครับ ผมเชื่อว่ากฎพฤติกรรมตลาดทั้ง 6 ข้อนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์ทุกท่านเห็นภาพและได้แนวทางในการเทรด Forex ขึ้นมาก สำหรับใครที่เคยขาดทุนจนต้องล้างพอร์ต บทความนี้สามารถเพิ่มความเข้าใจในตลาด เพื่อให้ท่านไปปรับกลยุทธ์ได้อย่างแน่นอนครับ ถ้าจะให้ผมสรุปสิ่งที่คุณจะได้จากบทความนี้ ผมให้ไว้สั้น ๆ 3 ข้อครับ คือ ให้คุณมุ่งเน้นไปที่การเทรดตามแนวโน้มเป็นหลักก่อน, เทรดตามสิ่งที่คุณเห็นไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด และ ฝึกเทรดเพียง 1 กลยุทธ์ให้ชำนาญแล้วค่อยเพิ่มกลยุทธ์ที่ใช้ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมอยากแนะนำทุกท่านครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก >>> znipertrade.com
コメント