top of page

Financing

หน้าเพจนี้ จะเป็นการแนะนำและให้ข้อมูลคร่าวๆสำหรับทุกท่านที่ต้องการซื้อรถผ่านสถาบันการเงินต่างๆ(ไฟแนนซ์) 

ซึ่งก็จะมีความกังวลใจว่าจะผ่านการอนุมัติได้หรือเปล่านั้น  เรา Best of Cars มีทีมงานฝ่ายประสานงานสถาบันการเงินบริการทุกท่านด้วยความเป็นมืออาชีพและมุ่งมั่นให้ท่านได้เป็นเจ้าของรถที่ท่านชื่นชอบในราคาที่ท่านประทับใจที่สุด

5 วิธีจัดไฟแนนซ์รถให้ผ่านครั้งเดียวจบ

การจัด ไฟแนนซ์ ให้ผ่านไม่ใช่เรื่องง่าย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาไฟแนนซ์หรือเคยยืนขอไฟแนนซ์ แล้วไม่ผ่านหรือผ่านยาก ไม่รู้จะทำอย่างไร เรามี 5 วิธีเตรียมความพร้อมก่อนจัดไฟแนนซ์ ยื่นครั้งเดียวให้ผ่านครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเสียเวลา ยื่นหาไฟแนนซ์มากมาย  มีอะไรบ้างตามอ่านกันได้เลย

ประวัติการขอจัดไฟแนนซ์

สิ่งแรกที่บริษัทไฟแนนซ์มักสอบถาม คือ เรื่องประวัติการกู้ยืม การขอสินเชื่อ ทั้งประวัติการผ่อนชำระ ประวัติการค้างชำระ ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะบ่งบอกได้ว่าคุณมีประวัติเป็นอย่างไร เคยติดเครดิตบูโร ติดแบล็คลิสหรือไม่  ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบพิจารณาขออนุมัติสินเชื่อนั้นเอง

แนะนำ

หากคุณเคยมีประวัติเสียหรือที่เราเคยได้ยินคุ้นหูว่า ติดแบล็คลิสเรื่องสินเชื่อ อาจเป็นอุปสรรคก้อนใหญ่ที่จะทำให้คุณไม่ผ่านการอนุมัติหรือผ่านค่อนข้างยาก หากอยากขอสินเชื่อให้ผ่านไว ได้เงินไว ควรปราศจากประวัติเสียทั้งสิ้น ทั้งเรื่องการติดค้างชำระ เรื่องติดเครดิตต่าง ๆ หากมีประวัติการชำระดี การอนุมัติก็ถือเป็นเรื่องง่ายแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็อาจจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท

 

 

 

อาชีพ

อาชีพถือสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลัก ๆ มี 3 อาชีพที่ส่วนใหญ่บริษัทไฟแนนซ์ให้ผ่าน ได้แก่  1.พนักงานบริษัท  2.รัฐวิสาหกิจ  3. ข้าราชการ แต่บางบริษัทมักปฏิเสธข้าราชการทหาร ตำรวจ ทนาย แล้วแต่เงื่อนไขของบริษัทนั้น ๆ  ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้ง 3 อาชีพนี้คิดเกณฑ์การอนุมัติได้ง่ายเพราะในแต่ละเดือนจะได้รับเงินเดือนตายตัว มีสลิปเงินเดือนที่ชัดเจนจึงตรวจสอบและอนุมัติผลได้ง่ายนั้นเอง ส่วนอาชีพที่เงินเดือนไม่ตายตัว เช่น พ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร รับจ้างทั่วไป  บริษัทไฟแนนซ์ส่วนใหญ่จะพิจารณาเป็นบางกรณีไป ซึ่งอาจตรวจเช็คจากบัญชีออมเงินหรือความเคลื่อนไหวทางการเงินผ่านบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทนั้น ๆ พิจารณา

แนะนำ

อาชีพทุกอาชีพสามารถขอสินเชื่อได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทจะกำหนดไว้ หากอยากผ่านการอนุมัติง่าย ๆ เร็วทันใจ ต้องมีสลิปเงินเดือนย้อนหลังไม่น้อยกว่า 6 เดือน นั้นหมายความว่า คุณจำเป็นต้องทำงานในสถานที่ทำงานนั้น เป็นระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 6-12 เดือนเช่นกัน หรือบางบริษัทต้องการมากกว่านั้น หากไม่มีสลิปเงินเดือน สามารถนำสมุดบัญชีเพื่อให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวทางการเงิน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6-10 เดือน หรือตรวจสอบทรัพย์สินอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับบริษัทไฟแนนซ์นั้น ๆ พิจารณา

ภาระใช้จ่าย

สิ่งสำคัญเมื่อบริษัทไฟแนนซ์ทราบถึงที่มาของรายได้แล้ว จำเป็นต้องทราบถึงรายละเอียดภาระค่าใช้จ่ายที่คุณมีด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่มักสอบถามถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นภาระในการผ่อนจ่ายสิ่งต่าง ๆ  เพราะสามารถบ่งบอกว่ารายได้ที่คุณมีหากหักลบภาระต่าง ๆแล้ว คุณจะบริหารเงินและยังคงสามารถชำระกับทางบริษัทไฟแนนซ์ได้นั้นเอง

แนะนำ

คุณควรมีภาระในการใช้จ่ายไม่เกิน 60-70% ของรายได้ หรือหากคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วต้องพอชำระค่างวดต่อเดือนของบริษัทสินเชื่อให้ได้ประมาณ 2 งวด จึงจะมีโอกาสผ่านได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

รถ

รถและเล่มทะเบียน คือ ทรัพย์สินสำคัญในการจัดไฟแนนซ์ของเรา เพราะบริษัทไฟแนนซ์จะต้องนำรถมาตรวจสอบสภาพ และดูประวัติของรถผ่านเล่มทะเบียนรถ ทั้งเรื่องการจดทะเบียน เจ้าของกรรมสิทธิ์ เลขตัวถัง เลขเครื่อง (ซึ่งต้องตรงกัน หากมีการเปลี่ยนแปลงเลขเครื่อง ต้องมีแจ้งในเล่มทะเบียน) เป็นต้น ทั้งหมดนี้บริษัทไฟแนนซ์ จะเป็นผู้พิจารณา ตรวจสอบ พร้อมกับประเมินราคา ซึ่งราคานั้นจะได้ต่ำกว่าหรือมากกว่าเกณฑ์ขึ้นอยู่กับสภาพรถ เอกสารตามความเป็นจริงของรถคันนั้น ๆ

 

แนะนำ

ในกรณีจัดไฟแนนซ์รถหรือรถแลกเงิน คุณควรมีความพร้อมในเรื่องการโอนเล่มทะเบียนเป็นชื่อของคุณเอง (ผู้ขอสินเชื่อ) ซึ่งบ่งบอกถึงการเป็นเจ้าของรถที่ถือกรรมสิทธิ์ตัวรถที่ต้องการกู้ และง่ายต่อการผ่านอนุมัติสินเชื่อ

ในกรณีย้ายไฟแนนซ์ เราจำเป็นต้องศึกษาเงื่อนไขของบริษัทที่เราจะย้ายไป ว่าระยะในการผ่อนชำระของเราสามารถทำการย้ายไฟแนนซ์ได้หรือไม่ รวมไปถึงการเตรียมเอกสาร เช่น สำเนาทะเบียนรถ สัญญาการขอสินเชื่อที่เก่า เป็นต้น

ในกรณีรถซื้อขาย จำเป็นต้องมีข้อมูลหรือเอกสารเกี่ยวกับตัวรถ ผู้ซื้อ ผู้ขาย ให้เรียบร้อยจึงจะสามารถผ่านการอนุมัติได้ง่ายและไวยิ่งขึ้น

 

บุคคล

ความถูกต้องของเอกสารที่ใช้ประกอบการพิจารณาถือเป็นสิ่งสำคัญ เช่น บริษัทไฟแนนซ์อาจจะติดต่อไปยังฝ่ายบุคคลของบริษัทที่คุณทำงานอยู่ เพื่อยืนยันว่าคุณมีอาชีพมั่นคงจริง รวมถึงการเยี่ยมบ้านคุณ เพื่อยืนยันว่าคุณมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจริง ตัวของผู้ขอสินเชื่อจึงจำเป็นต้องมีเอกสารชัดเจน มีที่อยู่อาศัยชัดเจนเป็นหลักแหล่ง ไม่ย้ายที่อยู่บ่อย ๆ มีบุคคลในครอบครัวหรือญาติพี่น้องยิ่งเป็นผลดีต่อการอนุมัติหรือบางกรณีจำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน ซึ่งต้องเป็นบุคคลในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย

 

แนะนำ

การให้ข้อมูลที่แท้จริงกับบริษัทไฟแนนซ์จะส่งผลให้อนุมัติง่ายขึ้นได้ ทั้งความถูกต้องของตัวเอกสารต่าง ๆ  ข้อมูลสถานที่ทำงาน ข้อมูลที่อยู่อาศัย  ข้อมูลเกี่ยวกับตัวบุคคล หากมีข้อมูลชัดเจน การอนุมัติก็ง่ายขึ้นเช่นกัน

สำหรับ 5 วิธีนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในข้อมูลการจัดไฟแนนซ์ การขออนุมัติต่าง ๆ ต้องขึ้นอยู่กับบริษัทนั้นเป็นผู้พิจารณา ซึ่งเราหวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องการจัดไฟแนนซ์ การขอสินเชื่อรถ

Reference : ขอขอบคุณบทความดีๆจาก hengleasing .com/ 5-วิธีจัด-ไฟแนนซ์-ผ่าน/

 

 

อาชีพที่ไม่มีสลิปเงินเดือน : จัดไฟแนนซ์ได้! ไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่อพูดถึงการขอจัดไฟแนนซ์ สำหรับคนที่มีอาชีพประจำ จะไม่ยุ่งยากนักเพราะมีเงินเข้าออกเป็นประจำต่อเนื่องและมีสลิปเงินเดือนที่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ชัดเจน แต่สำหรับคนที่มีอาชีพอื่นๆที่ไม่มีสลิปเงินเดือนนั้น เช่น อาชีพเป็นพ่อค้าแม่ขาย เกษตรกร ขายของออนไลน์ หรืออาชีพอิสระต่างๆ คงรู้สึกกังวลเพราะไม่รู้จะเอาสลิปเงินเดือนมาจากไหน และไม่รู้ว่าจะยื่นขอจัดไฟแนนซ์ได้มั้ย ใช่มั้ยครับ? จริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเลย เพราะคุณก็สามารถทำได้  ข้อแนะนำสำหรับคนที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีรายได้ประจำ แต่มีความต้องการซื้อรถ ต้องทำอย่างไรนั้นมาดูกันค่รับ

“หลักการพิจารณาของไฟแนนซ์”

เรามาดูหลักการพิจารณาของไฟแนนซ์กันก่อนดีกว่านะครับ ว่าไฟแนนซ์เขาจะประเมินเราอย่างไรบ้าง หลักๆเลย ก็คือ 5 ข้อด้านล่างนี้

  1. รายได้ต่อเดือน ว่าคุณมีจำนวนเงินเท่าไหร่

  2. รายได้ที่ว่านั้นมีที่มาจากไหน มีเอกสารหรือหลักฐานอะไรมายืนยันได้บ้าง

  3. ระยะเวลาที่ประกอบอาชีพนั้นๆ

  4. ที่อยู่อาศัยของคุณ

  5. Statement ทางการเงินของคุณ

เห็นอย่างนี้แล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าตอนนี้ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน อย่าเพิ่งกังวลไป ใจเย็นๆก่อนครับ  จะบอกว่าหลักฐานทุกอย่าง เราสามารถทำให้มันมีได้ค่ะ แต่เดี๋ยวคร๊าบ อย่าเพิ่งคิดในแง่ลบน้า อย่าคิดว่าต้องสร้างหลักฐานปลอมนะครับ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ555 แค่อยากจะบอกว่าเราสามารถใช้หลักฐานการประกอบอาชีพอื่นๆมาทดแทนได้ครับผม

​​​​​

 

“อาชีพค้าขาย”

มาเริ่มที่อาชีพค้าขายก่อนแล้วกันนะครับ เพราะมีลูกค้าแชทเข้ามาสอบถามมากมายว่า ตอนนี้ประกอบอาชีพค้าขาย เป็นแม่ค้าออนไลน์ สามารถออกรถได้หรือปล่าว

ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายแบบไหน ค้าขายอะไร เป็นแบบมีหน้าร้าน หรือเป็นการค้าขายบนโลกออนไลน์ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ คุณต้องทำให้บัญชีของคุณมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ซึ่งแน่นอนว่าการค้าขายต้องมีเงินทุนหมุนเวียนใช่ไหมล่ะครับ เพียงแค่คุณเปลี่ยนจากการเก็บเงินสด แล้วนำไปใส่ในบัญชีธนาคารแทน และควรฝากเงินเข้าบัญชีเป็นประจำ เพื่อเป็นการทำให้ไฟแนนซ์รู้ว่าในแต่ละเดือน คุณมีเงินเข้าออกบัญชีอยู่ประมาณเท่าไหร่ นอกจากนี้ คุณต้องประมาณรายได้สุทธิของคุณว่าใน 1 เดือน คุณมีรายได้จากการค้าขายเท่าไหร่ หรือได้เงินจากส่วนไหนมาเพิ่มบ้าง เพื่อให้คุณสามารถตอบคำถามพนักงานไฟแนนซ์ได้ง่ายขึ้นครับ

อาชีพค้าขาย : เอกสาร/หลักฐานที่ใช้

1. ภาพถ่ายหน้าร้าน – เพื่อเป็นการยืนยันว่าคุณทำอาชีพนี้จริงๆ และที่สำคัญเลยนะคะ ในภาพถ่ายต้องแสดงให้เห็นสินค้าที่คุณขายด้วย หรือจะถ่ายภาพการสต็อกสินค้าของคุณก็ได้ครับ

2. สัญญาเช่าสถานที่/ใบเสร็จการเช่าสถานที่ที่คุณเปิดร้านอยู่ – เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าคุณทำอาชีพนี้มานานเท่าไหร่แล้ว และทำอยู่ที่ใด แต่ถ้าหากคุณใช้บ้านของคุณเป็นสถานที่ประกอบกิจการ คุณสามารถใช้โฉนดที่ดินหรือสำเนาทะเบียนบ้านก็ได้ครับ แต่ในส่วนนี้ ขอแนะนำว่าคุณควรจดทะเบียนการค้า เพื่อเป็นสิ่งยืนยันที่ดีที่สุดเลยครับ ในกรณีที่เป็นการค้าขายออนไลน์ ขอแนะนำว่า คุณจำเป็นที่ต้องมีการจัดทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย ในแต่ละเดือน รวมถึงแสดงให้เห็นถึงปริมาณการสต็อกสินค้า หรือคุณอาจจัดทำเป็นการบันทึกการขายหรือการสั่งซื้อสินค้า เพื่อแสดงที่มาที่ไปของสินค้า และที่สำคัญคือ คุณต้องมีการเก็บใบเสร็จต่างๆ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันรายได้ และถ้าคุณมีใบจดทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นการดีมากเลยครับ นอกจากนี้คุณปริ๊นซ์ภาพหน้าเพจของร้านหรือเว็บไซต์มาประกอบการยืนยันก็ได้นะครับ

3. สำเนาทะเบียนบ้าน – เพื่อใช้เป็นการยืนยันความมั่นคงของคุณ ว่าคุณมีแหล่งที่อยู่อาศัยที่แน่นอน

4. Statement หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน

5. ทะเบียนการค้า/ใบเสียภาษี – ถ้าคุณมีเอกสารเหล่านี้ จะทำให้คุณยื่นขอไฟแนนซ์ได้ง่ายมากขึ้นนะคะ เพราะมันเป็นเอกสารที่สามารถยืนยันการประกอบอาชีพของคุณได้ชัดเจนที่สุดครับ

6. ใบเสร็จการซื้อของ – ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของประเภทใด หากเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของคุณ ก็ควรจะเก็บเอาไว้ เพราะสามารถเอามาใช้ยืนยันได้ครับ

 

 

“อาชีพเกษตรกร”

อาชีพเกษตรกร หมายถึง กลุ่มอาชีพที่ทำเกี่ยวกับพืชผลทางการเกษตร การทำฟาร์มต่างๆ รวมถึงการทำสวนยางพารา สวมปาล์มน้ำมัน เป็นต้น

โดยปกติแล้วคนที่ประกอบอาชีพนี้จะมีรายได้ที่ค่อนข้างตรงไปตรงมามากกว่า และที่สำคัญหากคุณประกอบอาชีพบนที่ดินของตนเอง ยิ่งแสดงให้เห็นว่าคุณมีทรัพย์สินเพียงพอที่จะสามารถยืนยันความน่าเชื่อถือได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเมื่อคุณมีรายได้จากการประกอบอาชีพ คุณจำเป็นต้องนำเงินรายได้ดังกล่าวฝากเข้าบัญชีธนาคาร เพราะมันจะทำให้ไฟแนนซ์เห็นคุณมีความสามารถในการผ่อนชำระค่างวด จากหลักฐานที่ว่า คุณมีการฝากเงินเป็นประจำ บัญชีมีการเคลื่อนไหวตลอด และคุณสามารถขอ statement จากธนาคารของคุณได้

อาชีพเกษตรกร : เอกสาร/หลักฐานที่ใช้

1. บิลเงินสด/ใบเสร็จต่างๆ – ที่เกิดจากการซื้อขายสินค้า วัตถุดิบ หรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเป็นเอกสารยืนยันรายได้ของคุณ ตัวอย่างเช่น บิลเงินสดจากการขายพืชผลทางการเกษตรให้แก่พ่อค้าคนกลางหรือลูกค้า ใบเสร็จจากการซื้ออุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ

2. โฉนดที่ดิน/สัญญาเช่าที่ดิน – ที่บ่งบอกถึงความมั่นคงและสถานที่ประกอบอาชีพของคุณ

 

“อาชีพอิสระ (Freelance)”

แน่นอนค่ะว่าใครที่มีอาชีพที่จัดอยู่ในกลุ่มอาชีพอิสระ หรือที่เราเรียกกันว่า งานฟรีแลนซ์ อย่างเช่น นักดนตรี ช่างภาพ นักเขียนนิยาย นักแปล กราฟฟิก เป็นต้น มักจะมีรายได้ที่ไม่แน่นอน ไม่คงที่ และคำแนะนำเดิมที่มาสด้า เจพี ขอยืนยันคือ ควรนำเงินที่ได้จากการทำงานฝากเข้าบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ตัวเลขรายการเงินได้ของคุณมีความคงที่ และหากคุณมีสามารถหาเงินได้เพิ่มขึ้นได้ทุกเดือนๆจะเป็นผลดีมากต่อการประเมินไฟแนนซ์ค่ะ ในส่วนของหลักฐานที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ

อาชีพอิสระ (Freelance) : เอกสาร/หลักฐานที่ใช้

1. หนังสือรับรองการทำงาน ขอได้จากสถานที่ที่รับทำงานอยู่ หรือจากสถานที่ที่เรารับงาน

2. Statement หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน

Reference : ขอขอบคุณบทความดีๆจาก mazdajp .com/ จัดไฟแนนซ์รถยนต์-2/

 

ขอสินเชื่อ (แบล็คลิส)

ติดแบล็คลิส จัดไฟแนนซ์ได้ หรือไม่ ????

หากคุณอยากได้รถมือสองซักคัน แต่คุณติดแบล็คลิส  ไม่ว่าคุณกำลังติดแบล็คลิสอยู่ หรือ เคยติดแต่ปิดแล้ว เรามีทีมงานประสานสถาบันการเงิน(ไฟแนนซ์)มืออาชีพไว้คอยให้คำแนะนำคุณ  ก่อนอื่นเราขอกล่าวถึงการ “ติดแบล็คลิส”  ก่อน ซึ่งการติดแบล็คลิสในที่นี้หมายถึงบุคคลที่ประวัติสินเชื่อไม่ดี แบ่งเป็นหลายระดับ แบ่งได้ตามนี้
หมายเหตุ: จำลองการเชคเครดิตบูโร (โดยสมมุติชื่อสถาบันที่รับเชคเครดิต)

สำหรับลูกค้าที่มีปัญหา ผ่อนชำระไม่ตรงตามกำหนด ตามภาพด้านบน ให้สังเกตุพื้นที่ที่มีบริเวณสีส้มไปจนถึงแดง นั่นหมายถึงบุคคลที่มีผลออกมา ในพื้นที่สีส้มไปจนถึงสีแดง หมายถึงประวัติการผ่อนชำระไม่ดี มีผลทำให้การขอสินเชื่อใหม่ อาจไม่ด้รับการอนุมัติหรือ ได้วงเงินสินเชื่อไม่เต็มนั่นเอง

  1. มีประวัติรค้างชำระบัตร หรือ ชำระล่าช้ามากกว่า 30 – 60 วัน มากกว่า 1 ครั้งในระยะเวลา 6 เดือน

  2. มีประวัติค้างชำระเป็นระยะเวลามากกว่า 61 วัน

  3. ปล่อยยึดรถ หรือ นำรถไปคืน (ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์)

  4. มีการค้างชำระ หรือ ปล่อยให้เป็นหนี้สูญจนถึงขั้น ฟ้องร้อง ประนอมหนี้

ตามความเป็นจริงแล้ว บุคคลที่ ติดแบล็คลิส จะมีเงื่อนไขที่การจัดไฟแนนซ์ ย่อมต่างไปจากบุคคลประวัติใสสะอาด เช่น วงเงินสินเชื่อ อัตรดอกเบี้ย และ การค้ำประกัน ดังนั้น ผู้ที่ ติดแบล็คลิส จึงต้องมีการเตรียมตัวไว้สำหรับการยื่นขอสินเชื่อ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อธิบายภาพให้เห็นชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินสินเชื่อของบุคคลตามประวัติเครดิต แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ให้สินเชื่ออีกที เพราะประวัติเครดิต เป็นส่วนที่ประกอบอย่างแรกในการขอวงเงินสินเชื่อเท่า ทั้งนี้ต้องอ้างอิงข้อมูลรายได้ของผู้ขอสินเชื่อประกอบด้วย

 

จากภาพจะเห็นได้วงเงินในการขอสินเชื่อสำหรับรถยนต์ ผู้ที่มีประวัติเครดิตดี จะได้ยอดที่สูงถึง 100 % ซึ่งต่างกับบุคคลที่ไม่เคยมีสินเชื่อ และ บุคคลที่ประวัติไม่ดี หากถ้าผู้ขอสินเชื่อต้องการยอดจัดที่สูง แนะนำให้ชำระหนี้ในทุกช่องทางตรงตามกำหนด เพราะไม่ใช่เพียงแค่ การขอสินเชื่อรถยนต์เท่านั้น หากแต่ในอนาคตท่านต้องการขอสินเชื่อบ้าน ก็จะสามารถได้วงเงินสูงเช่นกัน

หลายท่านอาจมีคำถาม หากติดแบล็คลิสแล้วปิดบัญชีแล้ว จะสามารถขอสินเชื่อได้หรือไม่ ???
คำตอบคือได้ แต่…… แต่อะไรนั้น ก็จะต้องมีเงื่อนไขเฉพาะกรณีอีก สามารถอ่านเพิ่มเติม ด้านล่างนี้ ในหัวข้อ เคยติดแบล็คลิส แต่ปิดไปแล้ว จัดไฟแนนซ์ได้หรือไม่ ??

แต่ทุกท่านที่มีปัญหาเราสามารถคลี่คลายให้คุณได้
มั่นใจเนื่องจากเรามีสถาบันการเงินที่หลากหลาย ไว้รองรับให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการ สามารถสรุปสั้นๆ ว่ามีเงื่อนไข ดังนี้

  1. ต้องเป็นรถปี 2006 ขึ้นไป

  2. สามารถผ่อนชำระสูงสุดได้ 72 งวด (รถยนต์ปี 2009 ขึ้นไป)

  3. รายได้ต้องเป็น 2.5 – 3 เท่าของค่างวดขึ้นไป (กู้รวมรายได้ ได้ค่ะ)

  4. ผู้ซื้อ หรือ ผู้ค้ำ ประกันต้องมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง เช่น หากผู้ซื้อเป็นบ้านเช่า ต้องหาผู้ค้ำประกันเป็นเจ้าบ้าน หรือมกรรมสิทธิ์ในบ้าน
    ถึงแม้ยังผ่อนอยู่ก็สามารถจัดได้ (ที่พักอาศัย เช่น บ้านเดี่ยว คอนโด ทาวเฮาส์ ฯลฯ)

  5. ผู้ค้ำประกันไม่จำเป็นต้องเป็นคนกรุงเทพฯ ก็ได้ (สามารถใช้บุคคลที่มีอาชีพและรายได้ชัดเจนที่อยู่ต่างจังหวัดได้)

  6. กรณีมีประวิติค้างชำระใช้เอกสารเพิ่มเติมดังนี้ (ถ้ามี)

    • ใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน

    • ใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดรถยนต์-รถจักรยานยนต์

    • ใบเสร็จผ่อนชำระค่าสินค้า – บัตรกดเงินสด (อิออน อิซี่บาย เฟิร์สชอยส์ ยูเมะ พลัส เป็นต้น)

    • ใบประนอมหนี้บัตรเครดิต

    • ใบปิดค่างวด/ปิดบัญชีค้างชำระ

 

กรณีประวัติ ติด แบล็คลิส และประวัติยังอยู่

การติดแบล็คลิสนั้น ผู้เช่าซื้อจำเป็นต้อง เตรียมตัว และ เตรียมใจ ไว้รับมือกับขั้นตอน และเอกสาร ที่ยุ่งยากมากขึ้น ทางเรามักจะแจ้งกับลูกค้า และ ย้ำเสมอว่าเนื่องจากผู้ขอสินเชื่อเคยมีประวัติการเงินที่ไม่ดี สถาบันการเงินได้มองเห็นแล้วว่า จำเป็นต้องสร้าง หลักประกันอื่นๆ มาเพื่อย้ำความน่าเชื่อถือและการันตีความสามารถในการชำระหนี้ให้ได้ สถาบันการเงินที่ รถบ้านสวย เคหะร่มเกล้า เลือกใช้ ถือว่า เป็น สถาบันการเงินที่อนุมัติสินเชื่อให้กับบุคคลที่ติด Black List โดยใช้อัตราดอกเบี้ยปกติ แทบจะไม่ต่างอะไรกับระบบธนาคาร แต่ต้องขอเพิ่มหลักประกันเพื่อเพิ่ม ความมั่นใจให้กับสถาบันการเงิน แบ่งเป็น 3 ข้อดังนี้

  1. ยอดจัด : ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้เงินดาวน์ 20,000-50000 ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ รายได้ ความมั่นคงทางการเงินโดยพิจารณาจากอาชีพและอายุงาน และสภาพรถยนต์ ณ วันทำสัญญาเป็นหลัก

  2. ระยะเวลาการผ่อน
    * รถปี 2009 ขึ้นไป ผ่อนได้สูงสุด  72 งวด
    * รถปี 2006 ขึ้นไป ผ่อนได้สูงสุด  60 งวด (พิจารณาเฉพาะบางรุ่นและยี่ห้อรถยนต์)

  3. หลักค้ำประกัน
    * กรณีไม่ใช้ผู้ค้ำประกัน ดาวน์ 25-30% ของมูลค่าตัวรถยนต์และตัวบุคคลที่เช่าซื้อจะต้องเป็นเจ้าบ้านเอง (เจ้าของกรรมสิทธิ์)
    * กรณีใช้บุคคลค้ำประกัน (เลือก ข้อใดข้อหนึ่ง)

    • เป็นเจ้าบ้าน / เป็นเจ้าของที่ดิน มีโฉนด

    • เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์กำลังผ่อนบ้าน มีใบเสร็จ ค่างวด

    • เป็นข้าราชการ C7 ขึ้นไป (รายได้ของข้าราชการคงเหลือหลังหักสุทธิแล้วต้องมากกว่าค่างวด 2.5 – 3 เท่าขึ้นไป และ ต้องเข้าบัญชีสม่ำเสมอทุกเดือน)

    • เป็นบุคคลที่มีเงินเดือนประจำและมีตำแหน่งระดับสูง ในบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูง   (รายได้หลังหักสุทธิแล้วต้องมากกว่าค่างวด 2.5 – 3 เท่าขึ้นไป และ ต้องเข้าบัญชีสม่ำเสมอทุกเดือน)

 

กรณีลูกค้าที่ติดแบล็คลิส มีงานประจำ รายได้ 2.5 -3 เท่าของค่างวด (กรณีงานประจำ) เงินเดือนต้องผ่านบัญชีธนาคาร และหากพักอาศัยตรงตามทะเบียนบ้าน ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือในการขอสินเชื่อได้และหากมีประวัติการผ่อนชำระที่พักอาศัยที่ดีก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการอนุมัติเพิ่มมากขึ้น

ตอบคำถามสำหรับผู้ที่ “เคยติดแบล็คลิส ติดมานานแล้ว แต่เพิ่งปิด”

ถ้าเกิน 2-3 ปี ขึ้นไป สำหรับบางสถาบันการเงิน ก็จะลบข้อมูลจากระบบ ของตัวเอง  ทำให้ไม่ขึ้น show ในระบบ เครดิตบูโร แต่สำหรับสถาบันการเงินที่ท่านได้ทำวีรกรรมการค้างชำระ ไว้อยู่นั้น ก็ยังคงติดไว้ แม้ระยะเวลจะนานและผ่านไปแล้ว แต่ถ้าจะกลับไปยื่น ขอสินเชื่อกับที่ที่ท่านเคยติดไว้ ย่อมเป็นไปได้ยาก เพราะมันได้ถูกฝังไปในฐานข้อมุลของสถาบันการเงิน นั้นๆ ไปเรียบร้อยแล้ว

ยกตัวอย่างเช่น : 

แก้ว ค้างชำระบัตรเครดิต ธนาคาร A อยู่  แต่วันดีคืนดี ถูกหวย รางวัลที่ 3 เลยอยากจะปิดหนี้ ทั้งหมดที่มีแก้วจึงติดต่อขอชำระหนี้ของ ธนาคาร A ทั้งหมด
วันเวลาผ่านไป 2 เดือน …..  แก้วอยากได้รถยนต์มือ 2 ซักคัน และ ยังพอมีเงินดาวน์ เหลืออยู่บ้างแก้วก็เลยไปขอจัดไฟแนนซ์รถธนาคาร B แต่กลัวไม่ผ่านเลยทำเรื่องขอจัดไฟแนนซ์ กับ ธนาคาร C ไปด้วยพร้อมๆ กัน

ผลคือ :

ธนาคาร B :  ตรวจสอบผลประวัติ เครดิตของแก้ว เบื้องต้นแล้ว ธนาคาร B แจ้งเลยว่า ไม่ผ่าน เพราะด่านแรกของการพิจารณา คือ เครดิตบูโร ถึงแม้จะมีเอกสาร ปิดจากสถาบันการเงินที่ติดแบล็คลิสแล้วก็ตาม แต่ถ้าระยะเวลาผ่านไป รอให้ ธนาคาร A ลบข้อมูลออกจากระบบ

ธนาคาร C :  หลังจากตรวจสอบเครดิตบูโรแล้ว ธนาคาร C ได้แจ้ง แก้วว่า มีประวัติ แก้วจึงได้นำเอกสารการปิดไปให้ ธนาคาร C ดู ธนาคาร C บอกว่า สามารถจัดไฟแนนซ์ได้ แต่ไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อได้เต็ม สามารถกู้ได้ 80 % เท่านั้น เพราะประวัติการชำระหนี้ ไม่สวยงาม ทำให้มีผลต่อวงเงินที่อนุมัติ

ตอบคำถามสำหรับผู้ที่ “เคยติดแบล็คลิส เพิ่งปิด มากกว่า 1 ปี ขึ้นไป”

กรณีเคยติดแบล็คลิส และ ปิดบัญชีมาแล้วมากว่า 1 ปีขึ้นไป สามารถทำได้ จัดได้เหมือนหรือใกล้เคียงกับบุคคลที่ไม่เคยมีประวัติผ่อนสินเชื่อมาก่อน

  1. รายได้ต้องเป็น 2 เท่าของค่างวด (กู้รวมรายได้ ได้) แต่รายรับรวมต้อง 15,000 บาทขึ้นไป

  2. ผู้ซื้อ หรือ ผู้ค้ำ ประกันต้องมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง ต้องไม่เคยติดคดีฟ้องร้อง ทั้งแพ่งและอาญา

  3. ผู้ค้ำประกันไม่จำเป็นต้องเป็นคนกรุงเทพฯ ก็ได้ (สามารถใช้บุคคลที่มีอาชีพและรายได้ชัดเจนที่อยู่ต่างจังหวัดได้)

  4. เตรียมสำรองเงินดาวน์ ที่ 10 – 20 % ของราคารถยนต์

ท่านสามารถตรวจเครดิตบูโรของตัวเองได้ที่ “ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร” ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ call center เครดิตบูโร 02 643 1250 ในวันและเวลาทำการ

จากผลที่ได้ สถาบันการเงินแต่ละแห่งให้ผลการอนุมัติที่แตกต่างกัน จึงเป็นกลไกสำคัญในการช่วย คุณคิดและวิเคราะห์สินเชื่อ ว่าควรที่จะยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว กับสถาบันการเงินใด แต่ถ้าคุณอยากจัดไฟแนนซ์สำหรับคนที่ติดแบล็คลิส ก็สามารถทำได้การจัดไฟแนนซ์สำหรับ บุคคลติดแบล็คลลิส (Blacklist) สิ่งสำคัญ เลยเราต้องดู เรื่องรายได้เป็นหลัก

ทุกๆ ธุรกรรมการจัดไฟแนนซ์ หรือ การขอสินเชื่อ หรือการที่เราจะผ่อนอะไรซักอย่าง ผ่อนของ ผ่อนบ้าน หรือ ผ่อนรถยนต์ ผู้ให้กู้ จะมองเรื่องของความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลักเกณฑ์การพิจารณาอื่นๆ ระหว่าง คน ติดแบล็คลิส (Blacklist) กับคนไม่ติดแบล็คลิส แทบไม่ต่างกัน จะต่างกันอยู่นิดเดียวคือ

ยอดจัด หรือ วงเงินอนุมัติ สำหรับคนติดแบล็คลิส (Black list) จะน้อยกว่า บุคคลปกติ และอาจต้องเลยไปดูถึงการค้ำประกัน ซึ่งการค้ำประกัน อาจใช้บุคลล หรือ ทรัพย์สิน(อสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน หรือ กรรมสิทธิ์ในบ้าน) ซิ่งการจัดไฟแนนซ์ อยากได้ผลที่ชัดเจน ต้องติดต่อสอบถามผ่านตัวแทนที่หน้าเชื่อถือ

ผลการพิจารณา ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินที่ขอสินเชื่อ และการตรวจสอบข้อมูลที่ให้และหลักฐานที่มี ถ้า เชคเกอร์ (checker) ไปตรวจสอบ สถานที่ทำงาน และข้อมูลที่ให้เป็นจริง เรื่องการจัดไฟแนนซ์ สำหรับ แบล็คลิส ง่ายนิดเดียวครับ

Reference : ขอขอบคุณบทความดีๆจาก rodbarns .com/ blacklist-car/

เรา Best of Cars มีทีมงานฝ่ายประสานงานสถาบันการเงินบริการทุกท่านด้วยความเป็นมืออาชีพและมุ่งมั่นให้ท่านได้เป็นเจ้าของรถที่ท่านชื่นชอบในราคาที่ท่านประทับใจที่สุด

ความแตกต่างของวงเงินสินเชื่อตามประวัติเครดิต
อาชีพทุกอาชีพสามารถขอสินเชื่อได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทจะกำหนดไว้
คุณควรมีภาระในการใช้จ่ายไม่เกิน 60-70% ของรายได้
อาชีพที่ไม่มีสลิปเงินเดือน จัดไฟแนนซ์ได้! ไม่ใช่เรื่องยาก
อาชีพค้าขายขอไฟแนนซ์ซื้อรถ
อาชีพเกษตรกรขอไฟแนนซ์ซื้อรถ
Freelance อาชีพอิสระขอไฟแนนซ์ซื้อรถ
ติดแบล็คลิส ซื้อรถมือสองได้หรือไม่
ติดแบล็คลิส จัดไฟแนนซ์ได้ หรือไม่
ผู้ที่ ติดแบล็คลิส จึงต้องมีการเตรียมตัวไว้สำหรับการยื่นขอสินเชื่อ
ความแตกต่างของวงเงินสินเชื่อ ตามประวัติเครดิต
​Best of Cars​ ข่าวคราวยานยนต์, ซื้อขายรถมือสอง, ชมรถสวยๆ
bottom of page