คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 9-3 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมวันนี้ (10 ธ.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด

ทั้งนี้ เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ และเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.และต.ค.

สมาชิก FOMC จำนวน 9 รายลงมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันนี้ ขณะที่ 3 รายโหวตสวนมติดังกล่าว ซึ่งเป็นจำนวนสมาชิก FOMC มากที่สุดที่โหวตสวนมติที่ประชุมนับตั้งแต่เดือนก.ย.2562 โดยนายสตีเฟน มิแรน ลงมติให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ ส่วนนายเจฟฟรีย์ ชมิด ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี และนายออสแตน กูลสบี ประธานเฟด สาขาชิคาโก ลงมติให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.75-4.00%

ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ๆ ละ 0.25% ในปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ๆ ละ 0.25% ในปี 2570 ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดแตะเป้าหมายระยะยาวที่ระดับ 3% โดยการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปี 2569 และ 2570 ไม่แตกต่างจากการส่งสัญญาณในการประชุมเดือน ก.ย.

นอกจากนี้ เฟดประกาศกลับมาซื้อพันธบัตร โดยเริ่มต้นด้วยวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันศุกร์นี้

• เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2025 Netflix ประกาศตกลงซื้อกิจการ “ธุรกิจสตูดิโอ + สตรีมมิง + คลังคอนเทนต์” ของ Warner Bros. Discovery ในดีลมูลค่าราว 72,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท) เพื่อยกระดับ Netflix จากผู้ให้บริการสตรีมมิงไปเป็น “ผู้ผลิต–ผู้แจกจ่ายคอนเทนต์ครบวงจร” แบบ vertically-integrated

• ถ้าดีลดังกล่าวผ่านอนุมัติ: Netflix จะได้สิทธิ์ในสตูดิโอดัง, แฟรนไชส์ใหญ่, คลังภาพยนตร์ของ Warner Bros, รวมถึงบริการสตรีมมิง/ทีวีของ HBO และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง — ทำให้ Netflix แข็งแกร่งขึ้นมากในวงการบันเทิง global

🧑‍⚖️ ทำไม “ทรัมป์” ถึงออกโรงเอง

• ทรัมป์ออกมาบอกว่า เขา “จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการพิจารณา” ดีลดังกล่าวด้วยตัวเอง เพราะมองว่า “ส่วนแบ่งตลาดของ Netflix ตอนนี้ก็ใหญ่มากแล้ว” และถ้ารวมกับ Warner Bros จะยิ่งเพิ่มพลังมากขึ้น — อาจ “กลายเป็นปัญหา” เรื่องการผูกขาด (monopoly / antitrust)

  
  

• แม้ทรัมป์จะยอมรับว่าเพิ่งพบกับ ซีอีโอร่วมของ Netflix (Ted Sarandos) และพูดถึงจุดแข็งของบริษัท — เขายังย้ำว่า ดีลนี้ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจากหน่วยงานด้านการแข่งขัน (antitrust regulators) เช่น United States Department of Justice (DOJ) และอาจรวมถึงหน่วยงานในยุโรปกับหลายประเทศที่เกี่ยวข้องด้วย

  
  

20/11/2025 23:38

Morgan Stanley ได้ปรับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ โดยไม่คาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมหลังจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในขณะที่ S&P 500 (SPY) ยังคงซื้อขายใกล้จุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ที่ $689.70 โดยมีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีที่ 14.05%

ธนาคารเพื่อการลงทุนอ้างถึง "การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและกว้างขวางของการจ้างงาน (+119k)" เป็นหลักฐานว่า "การชะลอตัวในช่วงฤดูร้อนอาจถูกประเมินเกินจริง" แม้ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้น 0.1 จุดเป็น 4.4% Morgan Stanley ระบุว่าความแข็งแกร่งในการจ้างงานบ่งชี้ถึงการมีเสถียรภาพในตลาดแรงงาน

ค่าเฉลี่ยสามเดือนของการเพิ่มงานเร่งตัวขึ้นเป็น +62,000 จาก +18,000 แม้จะมีการปรับลดเล็กน้อยในเดือนก่อนหน้าซึ่งทําให้เดือนสิงหาคมอยู่ในแดนลบ ธนาคารสังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานอย่างกว้างขวางทั้งในภาคสินค้าและบริการ

Morgan Stanley ชี้ให้เห็นสัญญาณที่ผสมผสานจากข้อมูลการว่างงาน โดยอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 4.44% (เกือบ 4.5%) แต่เป็นผลมาจากการมีส่วนร่วมในกําลังแรงงานที่สูงขึ้นมากกว่าการเลิกจ้าง บริษัทระบุว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในอัตราการมีส่วนร่วมในกําลังแรงงาน อัตราการว่างงานจะลดลง

NEWS | 11/20/2025 07:00:00 GMT

• Nonfarm Payrolls are expected to rise by 50K in September, more than doubling the August increase of 22K.

• The United States Bureau of Labor Statistics will publish the delayed jobs data on Thursday at 13:30 GMT.

• The US employment data is set to rock the US Dollar as it is eagerly awaited by markets.

The United States (US) Bureau of Labor Statistics (BLS) releases the delayed Nonfarm Payrolls (NFP) data for September on Thursday at 13:30 GMT.

ข่าวต่างประเทศ November 18, 2025 11:14 AM.

สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน สู่กรอบล่าง 155 เยนต่อดอลลาร์ ในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดโตเกียว และเคลื่อนไหวใกล้ 180 เยนต่อยูโร หลังจากลงไปแตะระดับดังกล่าว ซึ่งถือเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรเมื่อปี 2542

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวที่ 155.18-155.19 เยน เทียบกับ 155.22-155.32 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 154.67-154.69 เยนที่ตลาดโตเกียว เมื่อเวลา 17.00 น.ของเมื่อวานนี้

ส่วนยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.1592-1.1594 ดอลลาร์ และ 179.88-179.93 เยน เทียบกับ 1.1587-1.1597 ดอลลาร์ และ 179.86-179.96 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.1613-1.1614 ดอลลาร์ และ เยน 179.63-179.67 ที่ตลาดโตเกียวเมื่อวานนี้

ซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีการ “เคลื่อนไหวเพียงด้านเดียวและรวดเร็วมาก” โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการคลังของญี่ปุ่น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% ในวันพุธ (12 พ.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดเล็กน้อยในปี 2569 ซึ่งสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว

• ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.55 ดอลลาร์ หรือ 4.18% ปิดที่ 58.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.45 ดอลลาร์ หรือ 3.76% ปิดที่ 62.71 ดอลลาร์/บาร์เรล

โอเปกเปิดเผยรายงานประจำเดือนในวันพุธ โดยคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดเล็กน้อยในปี 2569 หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิต รวมทั้งอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก โดยรายงานดังกล่าวบ่งชี้ว่าโอเปกเปลี่ยนมุมมองจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวในปี 2569

รายงานของโอเปกระบุว่า กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งประกอบด้วยซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมาน อิรัก คาซัคสถาน และแอลจีเรีย ได้ผลิตน้ำมันในปริมาณ 43.02 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ขณะเดียวกันคาดว่าอุปสงค์น้ำมันจากโอเปกพลัสในปี 2569 จะอยู่ที่ 43.0 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจะมีอุปทานน้ำมันส่วนเกินเล็กน้อยที่ระดับ 20,000 บาร์เรล/วัน หากโอเปกพลัสยังคงผลิตน้ำมันในอัตราเดียวกับเดือนต.ค.

13 พ.ย. 68 00:24

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 4,200 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐใกล้ยุติภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ซึ่งจะทำให้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนธ.ค. ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว

ณ เวลา 00.18 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. บวก 88.20 ดอลลาร์ หรือ 2.14% สู่ระดับ 4,204.50 ดอลลาร์/ออนซ์

นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งทะลุ 5,000 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในไตรมาส 4 ของปี 2569 โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางและผู้บริโภคเป็นผู้ซื้อสำคัญในช่วงที่ราคาทองอ่อนตัวลง

ส่วนธนาคาร ANZ ระบุในรายงานว่า ราคาทองคำได้ทะลุผ่านแนวต้านที่ระดับ 4,050 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำให้มีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 4,160-4,170 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งหากราคาทองทะลุผ่านช่วงนี้ได้ ก็จะมีโอกาสพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,381 ดอลลาร์/ออนซ์